- ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลดได้ ถ้าเราช่วยกัน
คิดก่อนซื้อ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่ออายุการใช้งานที่คงทน
ใช้ให้คุ้ม ดูแลรักษาให้ดีตามคำแนะนำ
ซ่อมแซมเมื่อเสื่อมสภาพ แน่นอนว่าอุปกรณ์หลายๆ อย่างราคาไม่แพง และการทิ้งแล้วซื้อใหม่ก็ง่ายกว่าซ่อมแซมมาก แต่นั่นเป็นการผลักภาระขยะมลพิษให้กับโลกเรา ทางที่ดีควรศึกษาปัญหาแล้ว หาวิธีซ่อมแซมจะดีกว่า เดี๋ยวนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ วิธีซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ก็หาได้ง่ายๆ ในยูทูป เป็นการลดทั้งภาระค่าใช้จ่ายและภาระของโลกเราด้วย
เลิกวิ่งตามเทคโนโลยี เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกรุ่นใหม่บ่อยมาก เมื่อซื้อใหม่ ของเก่าไร้คุณค่า และกลายเป็นขยะทันที
ไม่ทิ้งรวมกับขยะมูลฝอยทั่วไป เพราะขยะอันตรายเหล่านี้หากรั่วไหลลงสู่พื้นดินและแหล่งน้ำจะกลายเป็นสารพิษที่น่ากลัวเลย!! นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อคนที่เก็บไปจัดการต่อโดยไม่มีความรู้เพียงพออีกด้วยนะคะ
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่มีสารอันตรายที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ได้แก่
- ตะกั่ว ทำลายระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ ไต ระบบเลือด และการพัฒนาสมองของเด็ก ส่วนพิษเรื้อรังจะค่อย ๆ แสดงอาการภายหลังการได้รับสารตะกั่วทีละน้อยจนถึงระยะเวลาหนึ่ง จึงจะแสดงอากา
- 2. ปรอท เป็นอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง ทำให้เสียการควบคุมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแขน ขา การพูด ทำให้ระบบประสาทรับความรู้สึกเสียไป เช่น การได้ยิน การมองเห็น ไม่สามารถรักษาให้ดีดังเดิมได้
- คลอรีน อยู่ในพลาสติกพีวีซี ก่อสารมะเร็ง เมื่อพลาสติกถูกเผาจะส่งผลต่อระบบหายใจ ระคายจมูก และทำให้เคลือบฟัผุ
- แคดเมียม มีพิษเฉียบพลัน ทำให้ปอดอักเสบรุนแรง ไตวาย ไตถูกทำลาย
- โบรมีนเป็นสารก่อมะเร็ง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี และรูปทรงของเส้นใยกล้ามเนื้อหัวใจ
“วิธีการป้องกันขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำได้โดยให้ลดการนำเศษเหลือทิ้งของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งานแล้ว นํากลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบจากปริมาณขยะ
บทความเรื่อง : สิ่งควรรู้ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
(เลือกคอมพิวเตอร์อย่างไรให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด)
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องน่าปวดหัว คุณอาจจะคิดว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี โดยขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือศึกษาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือเวบไซต์มาแล้ว แต่พอคุณไปถึงร้าน พนักงานขายที่พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมอื่นๆ อีกมากก็อาจทำให้งงมากขึ้น
การศึกษาหาข้อมูลให้มากที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งคำแนะนำจากคนอื่นอาจทำให้คุณหลงลืมวัตถุประสงค์ของตัวเองในการซื้อคอมพิวเตอร์ คนที่จะเป็นผู้ใช้งานเครื่องคอมพ์ที่คุณจะซื้อก็คือตัวคุณเอง ไม่ใช่เพื่อน สื่อโฆษณาต่างๆ หรือพนักงานขาย แต่คือคุณ ฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณอาจแปลกใจว่ามีคนจำนวนมากเลยทีเดียวที่ลืมข้อสำคัญในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ข้อนี้ไป
คุณใช้คอมพ์ทำอะไร
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือคิดให้ดีก่อนว่าคุณต้องการใช้คอมพ์ทำอะไรบ้าง ลองถามตัวเองว่าคุณเป็นนักเล่นเกมส์ตัวยง หรือชอบใช้งานเกี่ยวกับมัลติมีเดียต่างๆ คุณอยากได้คอมพ์ที่มีภาพคมชัดพอๆ กับประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง หรืออยากได้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานไม่ค่อยบ่อย คุณต้องการคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กก็ไม่ต่างกัน คุณทำงานอะไรและชอบทำอะไรในเวลาว่าง คุณชอบติดตามข่าวสารต่างๆ หรือดูวิดีโอแม้แต่ในเวลาเดินทางรึเปล่าคุณเท่านั้นที่จะตอบคำถามพวกนี้ได้
แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร เรามาลองดูคำถามที่มักจะพบบ่อยที่สุดเวลาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
แท็บเบล็ต สมาร์ทโฟน เน็ตบุ๊ค หรือ พีซี จะซื้อแค่เครื่องเดียวหรือต้องมีทั้งหมด
แท็บเบ็ลต สมาร์ทโฟน และเน็ตบุ๊ค เป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูคอนเท้นท์ต่างๆระหว่างเดินทาง หรืออ่านอีเมลบนโซฟาอยู่ที่บ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีเสริมนอกเหนือจากเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แม้ในเวลาที่คุณไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพ์
สมาร์ทโฟน แท็บเบล็ต และเน็ตบุ๊ค มีขนาดเหมาะสำหรับพกพา และได้รับการดีไซน์มาเพื่อตอบสนองการชมสื่อต่างๆ และการสื่อสารของคุณเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับการสร้างงาน หรือการทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เพราะขนาดที่เล็กทำให้ขนาดของจอและสมรรถนะในการประมวลผลน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นถ้าคุณต้องการถ่ายภาพ ตัดต่อภาพแชร์ภาพและวิดีโอ รวมไปถึงดูซีรี่ส์สุดโปรดบนโซฟาที่บ้าน หรือต้องเขียนอีเมล และเอกสารอื่นๆ อย่างเต็มที่ เครื่องคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
คุณต้องการประสิทธิภาพของเครื่องแค่ไหน
ซีพียู หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่า ชิป หรือ โปรเซสเซอร์ เป็นอุปกรณ์ชิ้นหลัก ที่มีความสำคัญที่สุดในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ก็ว่าได้เพราะซีพียูเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องในทุกส่วน หากคุณกำลังมองหาเครื่องคอมพิวเตอร์สักเครื่อง คุณจำเป็นต้องเข้าใจการทำงานของซีพียู ซีพียูจะช่วยรองรับการทำงานของส่วนประกอบชิ้นอื่นๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้ทำงานได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น
เมื่อคุณไปที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ อาจจะมีรายละเอียดอื่นๆ ที่คนขายนำเสนอและอาจจะทำให้คุณสับสนเช่น แรม กราฟิกการ์ด หรือเมมโมรี่ของเครื่อง แต่เริ่มต้น สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้จักคือซีพียู หรือชิปที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
หลายคนอาจชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น อ่านอีเมลไปพร้อมกับดาวน์โหลดเพลงออนไลน์และเข้าเว็บไซต์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ของคุณจึงต้องคิดให้เร็วขึ้นและฉลาดขึ้นเพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานของคุณ คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นมีคุณสมบัติในการประมวลผลด้วยเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย เช่น เทอร์โบ บูสต์ และ Hyper-Threading ซึ่งช่วยให้คุณทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่ฉลาดล้ำ เปรียบได้กับคนที่มีไอคิวสูงที่ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า ดังนั้นในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์แต่ละครั้ง ถ้าคุณเลือกโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่มีการทำงานที่ฉลาด และสามารถรองรับการทำงานที่เพิ่มขึ้นได้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด
สิ่งที่ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ตัดสินใจผิดพลาดบ่อยครั้งคือ การเลือกซื้อหรือเพิ่มอุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ที่มีราคาแพง แต่ไม่ได้คำนึงถึงอุปกรณ์หลักที่จะเป็นสมองสั่งงานของเครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างเต็มที่
ความเชื่อผิดๆ ที่มักเกิดขึ้นตอนเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
หลายคนอาจเลือกที่จะเพิ่ม แรม (RAM) หรือความจุของฮาร์ดดิสก์ที่มากขึ้น รวมทั้งซื้อแบตเตอรี่สำรองเพิ่มเติม เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยแลกกับโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานช้าลง โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
แรม เป็นส่วนเก็บความจำชั่วคราว ช่วยรองรับการทำงานทั่วไปของเครื่องพีซี ซึ่งสำหรับการทำงานทั่วไป แรมขนาด 4 กิกะไบต์จัดว่าเพียงพอแล้ว คุณสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ทั่วๆ ไป เล่นเกมส์ 3 มิติ ตัดต่อไฟล์วิดีโอ เข้าเว็บไซต์ เล่นเพลงจาก iTunes และทำงานเอกสารต่างๆ รวมทั้งส่งอีเมล ได้พร้อมๆ กันอย่างราบรื่น
การเพิ่มแรมจาก 4 กิกะไบต์ขึ้นเป็น 6 หรือ 8 กิกะไบต์ จะช่วยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นหากใช้แรม 4 กิกะไบต์เท่าเดิมโดยอัพเกรดโปรเซสเซอร์ให้สูงขึ้น
นอกจากเรื่องขนาดของแรมแล้ว อาจมีเพื่อนผู้หวังดี หรือกูรูด้านไอที ที่พูดถึงความเร็วของซีพียู ซึ่งเมื่อก่อนความเร็วของซีพียูที่มีหน่วยวัดเป็นกิกะเฮิร์ตซ์เป็นตัวบ่งบอกถึงความเร็วในการทำงาน
แต่ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่อีกต่อไป เทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยช่วยให้ซีพียูสามารถทำงานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเร่งความเร็ว ด้วยเทคโนโลยีใหม่จาก อินเทลTM เทอร์โบ บูสต์ 2.0 ซึ่งมีอยู่ในซีพียู จะช่วยให้ซีพียูเร่งความเร็วได้ตามที่ต้องการ สามารถทำงานได้เร็วขึ้นในทันทีที่ต้องทำงานหนัก เช่น การประมวลผลไฟล์วิดีโอแบบไฮเดฟินิชั่น, ส่งภาพถ่ายจำนวนมาก หรือเล่นเกมส์ 3 มิติ รวมทั้งเปิดใช้แอพพลิเคชั่นอื่นๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และปรับเข้าสู่การทำงานแบบประหยัดพลังงานในเวลาที่ใช้งานน้อย
หากคุณเป็นคนที่ชอบทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น เปิดหน้าต่างทำงานทิ้งไว้กว่า 20 หน้าจนทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ค้าง การมีซีพียูที่มีความเร็วมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อซีพียูที่มีความสามารถในการช่วยให้คุณทำงานหลายอย่างได้พร้อมๆ กันอย่างไม่ติดขัด ซึ่งเทคโนโลยี อย่างเช่น Hyper Threading สามารถตอบโจทย์นี้
ลองจินตนาการถึงเวลาที่คุณจิบน้ำชา คุณสามารถรินน้ำชาได้ทีละแก้ว เทคโนโลยี Hyper Threading จะใช้งานคอร์หลายตัวในซีพียู โดยส่งพลังงานให้คอร์แต่ละตัวในเครื่องซีพียูสามารถทำงานได้พร้อมกัน เหมือนกับคุณมีกาน้ำชา 2 ปาก เพื่อให้รินน้ำชาได้ทีละหลายแก้ว นอกจากนี้ภายใน อินเทลTM คอร์TM โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 ตัวล่าสุด เทคโนโลยี Hyper Threading ยังช่วยเพิ่มจำนวน thread ทำให้คุณสามารถทำงานได้มากถึง 8 รายการในเวลาเดียวกันอีกด้วย
เมื่อนำเทอร์โบ บูสต์ เทคโนโลยี มารวมกับ เทคโนโลยี Hyper Threading จะช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่สั้นลง ทำให้คุณไม่ต้องนั่งรอเครื่องทำงาน และจะคุณสามารถประหยัดเวลาได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
กราฟิกการ์ด ควรใช้แบบรวมอยู่ในชิปหรือแบบแยก
ผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งเกิดจากการกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ ดูไฟล์วิดีโอจาก วีดีโอ หรือ ยูทูป ชมภาพยนตร์แบบบลูเรย์ ทำให้ผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ต้องการรับชมภาพแบบสมจริงและต่อเนื่องโดยไม่สะดุด กราฟิกจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
เวลาคุณพิจารณาซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์ ตัวเลือกที่มีคือ กราฟิกชิปแบบที่รวมอยู่ในซีพียู หรือแบบแยก ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ที่ผสานกราฟฟิกชิปรวมในซีพียู จะทำให้คุณสามารถรับชมภาพที่ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติในการรับชมภาพจาก Intel® HD Graphic ซึ่งรวมอยู่ใน อินเทลTM คอร์TM ไอ 3, อินเทลTM คอร์TM ไอ 5 และอินเทลTM คอร์TM ไอ 7 โปรเซสเซอร์ จะตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานเพื่อความบันเทิง ด้วยภาพคมชัดและต่อเนื่อง ไม่ว่าเวลาที่คุณเล่นเกมส์ 3 มิติ หรือ ดูภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ตามปกติ สิ่งที่คุณเห็นจะดูตื่นตาตื่นใจ และเล่นโดยไม่มีสะดุดหรือติดขัด
เวลาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ การใช้กราฟิกสูงๆ กับซีพียูรุ่นเริ่มต้น ถือเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เพราะซีพียูรุ่นเริ่มต้นๆ ยังจะคงจะมีการทำงานที่ติดขัด การจับคู่ดังกล่าวจึงไม่ช่วยให้คุณได้ประสิทธิภาพของกราฟิกอย่างเต็มที่
คุณไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับกราฟิกการด์แบบแยกรุ่นไฮเอนด์ เพื่อใช้ตัดต่อ และแชร์วิดีโอออนไลน์ หรือเข้าดูสื่อมัลติมีเดียบนเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Facebook หรือ เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี Intel® Quick Sync Video จะช่วยย่นระยะเวลาในการตัดต่อและแชร์วิดีโอ รวมไปถึงสตรีมคอนเท้นท์ไปยังอุปกรณ์อื่น จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง หรือดูหนังเวลาระหว่างเดินทางเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา กราฟิกการด์แบบแยกจะใช้เพื่อส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังหน้าจอทีวี ซึ่งในบางครั้งต้องใช้สายเคเบิ้ลเข้ามาเสริม แต่ด้วย Intel® Wireless Display ซึ่งรวมอยู่ในซีพียู อินเทลTM คอร์ TM โปรเซสเซอร์ตัวใหม่ล่าสุด ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพราะคุณสามารถต่ออินเตอร์เน็ตจากโน้ตบุ๊กสู่โทรทัศน์ได้ คุณสามารถนั่งรวมกันหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่บ้านพร้อมเพลิดเพลินไปกับการดูบลูเรย์ และภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีความคมชัดระดับ 1080p จากห้องนั่งเล่นที่บ้านของคุณ
ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นเกมส์ 3 มิติ หรือใช้แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม วิศวกรรม หรือแอพพลิเคชั่นอื่นที่เน้นการใช้กราฟิกดีไซน์ระดับสูง หรือเน้นการตัดต่อวิดีโอแบบมืออาชีพ คุณจะไม่ได้รับชมภาพ 3มิติอย่างเต็มที่ตามต้องการ หากซื้อกราฟิกการด์แบบแยกราคแพงแต่ไม่ซื้อซีพียูที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี
การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ในขณะที่เราลงทุนกับบ้านและรถ คอมพิวเตอร์มีความสำคัญเพิ่มขึ้น โดยคอมพิวเตอร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการทำงานหลายอย่างภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือเพื่อความบันเทิง ดังนั้นการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์จึงควรมีการศึกษาให้เข้าใจจนสามารถเลือกได้เหมาะกับกิจกรรม
ต่างๆ และได้ประสิทธิภาพที่ตรงใจคุณ โดยเริ่มต้นที่การเลือกซีพียูที่เหมาะสมกับการทำงาน และควรเลือกเทคโนโลยีใหม่ที่สุดที่มีในขณะนั้นเพราะคุณจะใช้งานไปได้อีกนาน ถ้าคุณเลือกเทคโนโลยีที่เก่าจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนเครื่องเร็วขึ้นเพราะซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และอย่าลืมว่าการอัพเกรดส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริงจะเป็นการทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
เกี่ยวกับอินเทล
อินเทล เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการประมวลผล รวมทั้งการออกแบบ และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานการพัฒนาอุปกรณ์ประมวลผลระดับโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทล สามารถเข้าชมได้ที่www.intel.com/pressroom , www.intel.com/th, blogs.intel.com, ทวิตเตอร์ @Intelthailand และ เฟสบุ๊ค IntelThailand
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีในส่วนของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ คือ ชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ที่เป็นรูปร่าง สามารถจับต้องได้ วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีในส่วนนี้สามารถทำง่ายๆ ดังนี้
1.การเลือกสถานที่วางคอมพิวเตอร์ให้ถูกหลัก
ไม่ควรวางชิดกำแพงมากเกินไป ควรวางคอมพิวเตอร์ห่างจากกำแพงอย่างน้อย 1 ฟุต เพราะเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์แล้ว จะเกิดความร้อน การวางชิดกำแพงจะทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีอุณหภูมิ สูงขึ้น และเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานหนัก จนเสียได้
2.ไม่ควรปล่อยให้คอมพิวเตอร์สกปรกหรือมีฝุ่นเกาะมากเกินไป
การทำความสะอาดทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง เพียงแค่ถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ออก จากนั้นนำผ้าชุดน้ำเปล่านิดหน่อย หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเช็ดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นให้หาแปรงที่ขนมีความอ่อนนุ่มทำความสะอาดในบริเวณที่ไม่สามารถเช็ดได้
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี ในส่วนของอุปกรณ์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนของระบบปฏิบัติการภายในคอมพิวเตอร์ นั่นคือ โปรแกรม และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในฮาร์ดดิสก์ วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีสำหรับซอฟต์แวร์ มีดังนี้
1.ควรจัดระเบียบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ให้เป็นหมวดหมู่
ไม่ควรนำไฟล์งานวางไว้บนหน้า Desktop มากจนเกินไป เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบในการใช้งาน การจัดระเบียนนี้นอกจากจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลสะดวกแล้ว ยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไปจนทำให้ทำงานช้าลงอีกด้วย
2. ข้อมูลหรือโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานแล้วก็ควรลบออกจากคอมพิวเตอร์
เพราะการเก็บข้อมูล หรือโปรแกรมทุกอย่างไว้ในคอมพิวเตอร์ จะทำให้คอมพิวเตอร์ต้องประมวลผลตลอดเวลา เป็นสาเหตุให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง และการเก็บข้อมูลต่าง ๆ มากเกินไปยังทำให้พื้นที่ว่างจะหายไปเรื่อย ๆ และเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูลด้วย
3. ควรมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และควรสแกนไวรัสภายในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นประจำ
นอกจากนี้ยังควรทำความสะอาด Hard Disk ด้วยโปรแกรมเฉพาะที่ใช้ในการดูแล Hard Disk เพื่อช่วยให้การทำงานของคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธีนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง โดยแบ่งการดูแลออกเป็นสองส่วน นั่นคือ ส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ตามที่เราแนะนำไปแล้ว เพียงแค่นี้คอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานได้ปกติ ไม่เสียเร็ว เรียกได้ว่า ไม่ต้องง้อช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ในการซ่อมบำรุงเลย
4,992 total views, 12 views today